คุกกี้ผลไม้















ขั้น ตอนการทำ


ร่อนแป้งแล้ว ตวงตามส่วน ผสมผงฟู โซดา นมผง ร่อนรวมกัน พักไว้
ตีเนยสด เกลือให้ขึ้น ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลตีจนกระทั่งขึ้นฟู ใส่ไข่ทีละฟองตีให้เข้ากัน
เทแป้งที่ เตรียมไว้ผสมในส่วนผสมของเนย สลับกับน้ำ เติมเชอรี่เขียว-แดง ลูกเกด
ถั่วบด ผสมให้เข้ากัน
นำส่วนผสมที่ ได้ปั้นเป็นแท่งเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว แช่เย็นจนอยู่ตัว
ตัดเป็นแผ่น หนาประมาณ 1/4 นิ้ว วางบนถาดที่ทาไขมัน
อบไฟ 180 ํ ซ.หรือ 350 ํ ฟ. เวลา 15-20 นาที จนกระทั่งขนมสุก


ส่วน ผสม
น้ำหนัก (กรัม)
สูตร ตวง
แป้งสาลี
600
6 ถ้วย
ผงฟู
6
2 ช้อนชา
โซดาไบคาร์บอเนต
3
1 ช้อนชา
นมผง
25
1/4 ถ้วย
เนยสด
225
1 ถ้วย
เกลือ
5
1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
250
1 1/4 ถ้วย
ไข่
100
2 ฟอง
น้ำ
120
1/2 ถ้วย
เชอรี่เขียว-แดง
100
1 ถ้วย
ลูกเกด
75
3/4 ถ้วย
ถั่วลิสงอบบด
75
3/4 ถ้วย

Credit : http://www.tipfood.com/2009/?name=food&file=readfood

คัสตาดชิฟฟ่อนเค้ก














ขั้นตอน การทำ


ส่วนผสมที่ 1 น้ำตาลไหม้
เทน้ำตาลใส่ พิมพ์เค้กสี่เหลี่ยมขนาด 11 1/2 x 15 1/2 นิ้ว สูง 2 นิ้ว นำตั้งไฟให้น้ำตาล ละลายจน ทั่วพิมพ์ เป็นสีน้ำตาลอ่อน พักให้เย็น

ส่วนผสมที่ 2
ไข่แดง น้ำตาลทราย นมข้นจืด กลิ่น ผสมรวมกันคนให้เข้ากัน เทลงพิมพ์ที่มีน้ำตาลไหม้

ส่วนผสมที่ 3
ร่อนแป้งแล้ว ตวงตามส่วน ผสมผงฟูร่อนรวมกัน ใส่น้ำตาลทรายผสมพักไว้
คนไข่แดงกับ น้ำมันพืชให้เข้ากัน ใส่น้ำ เทส่วนผสมของแป้งลงคนให้เข้ากัน ให้เนื้อเนียนใส่กลิ่นวานิลา

ส่วนผสมที่ 4
ไข่ขาวกับครีม ออฟทาร์ทาร์ ตีให้ขึ้นฟู ใส่น้ำตาลตีจนไข่ขาวตั้งยอดแข็ง
นำส่วนผสมของ ส่วนผสมที่ 3 คือไข่แดง แป้ง น้ำตาล น้ำ น้ำมัน เทลงในไข่ ขาวตะล่อม เบา ๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน
นำส่วนผสมทั้ง หมด เทลงบนส่วนผสมที่ 2 ที่ใส่พิมพ์ไว้ เกลี่ยให้ทั่ว นำพิมพ์เค้กวางบนถาดอบ ใส่น้ำในถาดสูง1/4 ของถาด
เข้าอบ อุณหภูมิ 180 ํ ซ.หรือ 350 ํ ฟ. เวลาประมาณ 30-40 นาที จนขนมเหลืองนำออก
จากเตาคว่ำลงบนตะแกรง พักให้เย็น


ส่วนผสม
น้ำหนัก (กรัม)
สูตรตวง
ส่วนผสมที่ 1 น้ำตาลไหม้
น้ำตาล ทราย
100
1/2 ถ้วย
ส่วนผสมที่ 2
น้ำตาลทราย
200
1 ถ้วย
นมข้น จืดระเหย
400
1 3/4 ถ้วย
ไข่แดงตีพอแตก
85
5 ฟอง
วานิลา
10
1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมที่ 3
แป้งเค้ก
280
3 ถ้วย
ผงฟู
10
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
150
3/4 ถ้วย
น้ำ
240
1 ถ้วย
ไข่แดง
85
5 ฟอง
น้ำมันพืช
100
1/2 ถ้วย
วานิลา
3
1 ช้อนชา
ส่วนผสมที่ 4
ไข่ขาว
330
10 ฟอง
ครีมออฟทาร์ทาร์
3
1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
150
3/4 ถ้วย

Credit: http://www.tipfood.com/2009/?name=food&file=readfood

มาทำแยมโรลแบบง่ายๆกันนะคะ












วิธีทำแยมโรลแบบง่ายๆ

ส่วนผสม

  1. น้ำตาล ๓/๔ ถ้วย ร่อนซะหน่อยค่ะ
  2. การร่อนแป้ง ถ้าไม่ใช่แป้งเค้ก ร่อนซัก ๓ ครั้งค่ะ ถ้าเป็นแป้งเค้กก็ร่อนครั้ง เดียวพอหลังจากที่ร่อนแล้วตวงเอา ๓/๔ ถ้วย แล้วเอามาร่อนพร้อมกับผงฟู ๓/๔ ช้อนชา และเกลือ ๑/๒ ช้อนชา พักไว้ ค่ะ
  3. ไข่ ๔ ฟอง
  4. วานิลา ๑ ช้อนชา
  5. แยมสำหรับทำไส้
  6. น้ำตาลป่นนิดหน่อย ซัก ๒-๓ ช้อน โต๊ะค่ะ เอาไว้โรยบนผ้าขาวที่จะวางขนม

วิธีทำ

  1. แยกไข่ขาว ไข่แดง พักไข่แดง ไว้ก่อน นำไข่ขาวไปตีจนขึ้นฟู ไข่ขาวที่ตีแล้ว เอาออกใส่ชามพักไว้ค่ะ
  2. ตีไข่แดงให้ขึ้นเป็นสีครีม ค่อยๆ ใส่น้ำตาลที่ร่อนและตวงเตรียมไว้จน หมด ตีจนขึ้นเป็นสีนวล แล้วเติมวานิลา ค่ะ ตีต่อจนเข้ากัน
  3. ค่อยๆคนแป้งที่ตวงและร่อน พร้อมกับผงฟูและเกลือไว้ลงไปใน ไข่แดงที่ตีจนขึ้นเมื่อกี๊นี้ ค่อยๆคนจนเข้ากัน
  4. ค่อยๆคนไข่ขาวที่ตีไว้ลงไป ค่อยๆคน จากก้นชามขึ้นนะคะ คน พอให้เข้ากัน อาจยังเห็นไข่ขาวเล็กน้อยก็ได้ค่ะ
  5. ใช้ถาดอบคุกกี้นะคะ คือถาดที่แบนๆค่ะ ทาเนยขาวที่ก้นถาด แล้วเอากระดาษ สำหรับรองอบขนมที่เรียกว่า Parchment paper ทาเนยขาวก้นกระดาษอีกที
  6. เทขนมที่ตีไว้ให้ทั่วก้นถาด พยายาม เกลี่ยให้ถึงมุมทุกมุม เกลี่ยๆ พอเรียบ
  7. อบไฟ ๓๗๕ องศาฟาเรนไฮต์ แค่ ๑๒ นาที คอยดูพอให้เป็น สีนวลสวยค่ะ อย่าให้เกรียม เดี๋ยวม้วนยาก
  8. พอออกมาก็คว่ำลงบนผ้าขนหนูสะอาด โรยด้วยน้ำตาลป่นนะคะ ลอกกระดาษ ออกค่ะ ใช้มีดขลิบริมออก นิดเดียวก็พอค่ะ แค่ตัดขอบที่แข็งๆออก จะได้ไม่แตกเวลาม้วน
  9. ใช้ผ้าที่รองขนมอยู่ ช่วยม้วนเพื่อให้ ม้วนได้ง่ายหลังจากที่ทาไส้นะคะ หลังจากนั้นคลี่ออก
  10. ถ้าเป็นแยมทาได้ เลย ถ้าเป็นครีม รอให้ขนมเย็นสนิทก่อน ไม่ต้องทาหนา เดี๋ยวเลอะออกมา
  11. ทาเสร็จก็ม้วนอีกที ม้วนแล้ว วางให้ตะเข็บ ลงทิ้งไว้ให้อยู่ตัว เวลา หั่น ใช้มีดคมๆ เช็ดมีด หลังจากหั่น จะได้ไม่เปื้อนชิ้นต่อไป
  12. เสริฟ

ลองทำกันดูนะคะ :)

เค้กนมสดหน้าเชอรี่ และ สตรอเบอรี่ สูตรคุณตรี
















ส่วนผสม

แป้งเค้ก.... 62.5 กรัม
ผง ฟู....1/2 ช้อนชา
เนยสดจืด....1/8 ถ้วย
นมสด....1 ช้อนโต๊ะ
วิป ปิ้งครีม ....2 ช้อนโต๊ะ
วนิลา....1/2 ช้อนชา
น้ำตาลป่น ....80 กรัม
ไข่ไก่ทั้งฟอง....2 ฟองใหญ่(ตรีใช้เบอร์หนึ่ง)
ไข่แดง.... 1 ฟองใหญ่
เกลือ....1/8 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ร่อนแป้ง กะผงฟู สักสามรอบ
2. นำวิปปิ้งคริม นมสด เนยสด ผสมกันใส่ไมโครเวฟเพื่อละลายค่ะ พักไว้ก่อนค่ะ
3. นำไข่ใส่ภาชนะตีค่ะ ตีไข่ขึ้นฟูเป็นฟองละเอียดปานกลาง ก็เริ่มทะยอยใส่น้ำตาลทรายป่นทีละน้อยค่ะ
4. ตีด้วยความเร็วสูงไปจนไข่เริ่มมีริ้วรอยชัดเจน ฟูข้นขาวเลยค่ะ
5. แล้วก็ปรับเป็นสปีดต่ำสุด ค่อย ๆ เทแป้งลงไปผสมพอเข้ากันค่ะ
6. ใช้เวลาประมาณ นับหนึ่งถึงสิบน่ะค่ะ 1..2.3...10 ปิดเครื่องเลยค่ะ
7. แล้วใช้พายยางตะล่อมอีกสักนิด เพื่อกวาดแป้งที่ติดข้างโถผสม
8. นำส่วนผสมเนยใส่วนิลาลงไปค่ะแล้วก็เทลงในส่วนผสมไข่กับแป้งเลยค่ะ
9. ค่อย ๆ เทลงเป็นสาย แล้วก็ตะล่อมแป้งไปด้วยค่ะ
10. ตะล่อมจนเข้ากันดี แบบเบา ๆ มือ
11. ตัดกระดาษไขรองพิมพ์ ไม่ต้องทาไขมันค่ะ
12. ใช้ไม้จิ้มฟันลากไล่ฟองอากาศสักหน่อยนะคะ
13. ส่งเข้าอบที่ 190 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 20-25 นาทีน่ะค่ะ
14. นำวิปปิ้งครีมมาผสมกับนมสดเพิ่มอีกสองช้อนกินข้าวแบบสั้น
ใส่น้ำตาลทราย ป่นอีกช้อน วนิลาอีกนิดหน่อย
15. ตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟูแล้วก็ใช้แต่งหน้าค่ะ
พอตั้งยอดแล้วก็หยุดตีได้ เลยค่ะ

**หมายเหตุ** วิปปิ้งครีมถ้าจะให้ตั้งยอดสวยและอยู่ตัวได้นาน ทั้งหัวตี และชามที่ใช้
จะต้องแช่ตู้เย็นให้เย็นจัดๆ แล้วพอจะเริ่มตี ก็ให้็นำชามที่จะใช้มาใส่ในอ่่างอีกใบที่มี่น้ำเย็น
และใส่น้ำแข็งด้วยนะ คะ

Credit:http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kamonnut&month=01-2008&date=25&group=5&gblog=2

ขนม Daifuku (ไดฟุกุ)
















คนไทยเราชอบเรียกว่าโมจิไส้ ถั่วแดง แต่จริงๆเขาเรียกขนมประเภทนี้ว่า ไดฟุกุ แป้งด้านนอกทำจากแป้งข้าวเหนียวนึ่งที่นำมาตีจนเหนียว (โมจิ) มีสีขาว เขียวและชมพู ส่วนไส้ก็เป็นถั่วแดง ที่พิเศษก็จะใส่ผลไม้ลงไป เช่น อิจิโกะ ไดฟุกุ (Ichigo Daifuku) เป็นโมจิไส้ลูกสตรอร์เบอร์รี่หอมหวาน อร่อยจับใจ นอกจากนั้นยังมีไส้เมลอนบดและไอศกรีมรสต่างๆด้วย

ขนมที่ชื่อว่า ไดฟุกุ เป็นขนมแป้งนิ่มๆ ที่มีใส้อยู่ข้างใน แต่ชื่อไดฟุกุนั้นแปลตรงตัวก็จะแปลว่า มีความสุขมากๆ นับเป็นขนมชื่อมงคลแบบญี่ปุ่นๆ คนที่เคยได้ลองชิมขนมนี้ก็จะรู้ว่ากัดเข้าไปแล้ว มีความสุขมากแค่ไหน ระหว่างที่กัดแป้งเย็นๆ ลื่นๆ คอ เคี้ยวๆ ผสมกับใส้้ข้างในหวานชื่นลิ้น

วัตถุดิบ
1. แป้ง 250 กรัม
2. แบะแซ 425 กรัม
3. น้ำ 175 กรัม
4. เนยขาว 75 กรัม
5. แป้งเค้ก 1/2 ช.ต
(แต่พอทำแล้วคิดว่าน้ำเปล่ามากไป น่าจะลดลงเหลือแค่ 150 กรัม และเนยขาวควรลดเหลือ 60 กรัม)


วิธีทำ
1 เทแป้งลงในอางผสม พักไว้
2.ต้มแบะแซ และเนยขาว 7-5กรัมแบ่งไว้ครึ่งหนึ่ง ให้ละลาย เติมส่วนผสมลงในอ่างผสม ผสมให้เข้ากันกับแป้งใช้หัวตีใบไม้ ด้วยความเร้วต่ำ
3.เอาเนยขาวที่เหลืออีกครึ่งผสมต่อจนเข้ากันดี
4.นำมาแบ่งก้อนละ 30กรัม และใส่ใส้ ปั่นขึ้นรูปต่างๆๆได้

ขนมอาซูกิ











ส่วนผสม
1. ถั่วแดง 300 กรัม
2. น้ำตาลทราย 300 กรัม
3. น้ำเปล่า 3 ถ้วย

วิธีการทำ
1. แช่ถั่วแดงในน้ำหนึ่งคืน
2. เทน้ำทิ้ง
3 . ต้มน้ำให้เดือด ใส่ถั่วแดงลงต้มไฟอ่อนๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง จนถั่วแดงนิ่ม ถ้ายังไม่นิ่ม ให้เติมน้ำ
นิดหน่อย แล้วต้มต่อจนน้ำแห้ง
4. ใส่น้ำตาลทรายลงในหม้อต้มถั่วแดง คนให้เข้ากัน

Takoyaki ทาโกะยากิสูตรที่ 3
















ทาโกยากิ – ขนมครกญี่ปุ่น สูตรที่ 3
ส่วนผสม
1. แป้งทาโกะ 1 ถุง
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. น้ำเปล่า 7 ถ้วยตวง
4. ทาโกะ (ปลาหมึกยักษ์ญี่ปุ่น) หั่นสี่เหลี่ยมเต๋า
5. ขิงดองญี่ปุ่นหั่นฝอยเล็กๆ
6. ต้นหอมซอย
7. ปลาแห้งญี่ปุ่น (สำหรับโรยหน้า)
8. ซอสหวาน สำหรับทาโกะยากิ
9. สาหร่ายผง
10. มายองเนส
11. น้ำมันพืชสำหรับเช็ดเตา

วิธีทำ
1. ค่อยๆผสมแป้ง 1 ถุงกับน้ำและไข่ไก่ จนเนื้อแป้งเนียนละเอียด
2. ตั้งเตาขนมครกจนเริ่มร้อน เช็ดเตาด้วยน้ำมันพืช (เพื่อไม่ให้ขนมครกติดเตา)
3. หยอดแป้งลงไปจนเต็ม
4. ใส่ส่วนผสมของปลาหมึก ต้นหอมซอย ขิงดอง ลงไป
5. รอจนด้านล่างสุก ใช้ไม้จิ้มพลิกกลับด้านรอจนสุกอีกแล้วกลับด้าน ได้ขนมครกลูกกลมๆกลิ้งไปมาจนสุกทั่ว
6. ตักใส่จานราดด้วยมายองเนส และซอสทาโกะยากิ โรยหน้าด้วยปลาแห้งและสาหร่ายผง

Takoyaki ทาโกะยากิสูตรที่ 2
















ทาโกะยากิสูตรที่ 2
ส่วนผสม
แป้งสาลี 1 ถ้วย
น้ำ 1 3/4 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ผงดาชิ 1 ซอง
หรือซุปผงรสไก่, หมู 1 ช้อนโต๊ะ
ขิงหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
แครอท, กะหล่ำปลีซอย
กุ้งสด
ทูน่า
มายองเนส
ซอสโอโคโนมิยากิ (ถ้าไม่มีใช้ ซอสเทอริยากิ แทนค่ะ) เตรียมแป้งโดยเอาแป้งสาลี, น้ำ, ไข่ไก่,ซุปผง เทใส่ลงในถ้วย คนไปเรื่อย ๆ จนเข้ากันและเป็นเนื้อเดียว เตรียมทำทาโกะยากิได้เลย
กะทะทาโกยากิ ซื้อได้ตามห้างทั่วไปค่ะ เสียบปลั๊ก เปิดสวิท รอให้ร้อน เอาน้ำมันพืชทาบางๆ เทแป้งครึ่งหลุม ใส่กุ้งหรือปลาทูน่าลงไปในหลุม ใส่ผักต่าง ๆ ลงไป ตามด้วยเทแป้งให้เต็มหลุม พอเริ่มสุก เอาไม้แหลมจิ้มลงไปมันจะร่อนเลยค่ะ พลิกให้เอียงประมาณ 90 องศา แล้วเทแป้งลงไปเพิ่มให้เต็มหลุมอีกครั้ง รอจนสุก คราวนี้คว่ำทาโกะลงแล้วปิดด้วยแป้งเทลงไปเป็นครั้งสุดท้าย พลิกไปมาจนสุกทั่วกันทั้งลูก ก็เป็นอันเรียบร้อย

Takoyaki ทาโกะยากิ ขนมครกญี่ปุ่น





















Takoyaki ทาโกะยากิ ขนมครกญี่ปุ่น สูตรที่1
อุปกรณ์
1. ทาโกะต้ม / หอยเชลล์
2. ต้นหอมซอยละเอียด
3. ขิงดองแดงๆ หั่นฝอย < อันนี้เราไม่ชอบ เลยไม่ใส่
4. น้ำมันสลัด / น้ำมันพืช
5. ไข่ 1 ลูก
6. แป้งโอโคโนมิยากิ 1 ถ้วย
7. ผงฟู baking powder 1 ช้อนชา
8. คัทสึโอะแห้งขูดฝอย (โรยหน้า)
9. สาหร่ายผง (โรยหน้า)
10. ซอสทาโกะยากิ / ซอสทงคัทสึ / ซอสโอโคโนมิยากิ (อะไรก็ได้คล้ายๆ กันแต่ซอสทงคัทสึจะหวานๆ กว่า) วิธีทำง่ายๆ
1. เอาแป้งโอโคฯ ผสมกับผงฟู ใส่น้ำเปล่า + ผงดาชิเล็กน้อย ตามด้วยไข่ คนให้เข้ากันพอหนืดๆประมาณทำแพนเค้ก
2. ใช้ที่ทาน้ำมันเช็ดหลุมกะทะ
3. ใส่ทาโกะ แล้วเทแป้งที่ผสมแล้วลงไป 4/5 ของหลุม เผื่อที่ไว้ให้มันพองฟูขึ้นมานิดหน่อย โรยด้วยต้นหอมสับ (setp นี้หน้าตาคล้ายขนมครกไทย)
4. ใช้ไม้จิ้มทาโกะยากิแซะรอบๆ หมุนวนค่อยๆกลับให้เป็นลูกกลมๆ จิ้มๆ พลิกๆ ให้สุดทั่วกัน
5. จัดใส่จาน ปาดด้วยซอสทาโกะยากิ / ทงคัทสึ หรือ ซอสโอโคฯ ก็ได้
6. โรยหน้าด้วยคัทสึโอะแห้ง + สาหร่ายผง
7. หม่ำได้อร่อยโลดดดด
ดังนั้น ทาโกะยากิ จึงหมายถึง อาหารที่ทำจากปลาหมึกยักษ์ด้วยวิธีการทำให้สุกในน้ำมันเล็กน้อย

ข้าวเม่าคลุก












ส่วนผสม
ข้าวเม่า 1 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้ต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ฝัดข้าวเม่าให้สะอาดเลือกเม็ดที่เสียทิ้ง
2. ผสมน้ำดอกไม้กับเกลือป่นคนให้ละลาย แล้วใส่น้ำตาลคนให้ละลายเข้ากัน พรมลงบนข้าวเม่าเคล้าเบาๆ ให้ข้าวเม่านิ่ม
3. แบ่งมะพร้าวขูดส่วนหนึ่งใส่ลงเคล้ากับข้าวเม่า ปิฝาไว้สักครู่ เพื่อให้ข้าวเม่านิ่มขึ้น
4. ตักข้าวเม่าใส่จานโรยด้วยหน้ามะพร้าวและน้ำตาลทราย

ขนมอาลัว












ส่วนผสม
แป้งสาลี 2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
น้ำใบเตย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ร่อนแป้งสาลี 2 ครั้ง
2. ใส่น้ำตาลทรายลงผสมกับแป้งสาลีที่ร่อนไว้เคล้าให้เข้ากัน
3. ใส่หัวกะทิทีละน้อยนวดให้น้ำตาลละลาย จนหัวกะทิหมด คนให้เข้ากันใส่น้ำใบเตย
4. ใช้ผ้าขาวบางกรองส่วนผสมใส่ในกระทะทอง ตั้งไฟกลางกวนเร็วๆ ให้แป้งสุก
5. เมื่อแป้งสุกแล้วพักไว้สักครู่ใส่กรวยบีบหรือหยอดตามต้องการนำอบ ด้วยไฟอ่อนจนผิวนอกของขนมแห้ง ยกลงจากเตารอให้เย็นแซะออกจากถาดจัดใส่ภาชนะ

ขนมสัมปันนี











ส่วนผสม
แป้งสาลี 1/2 ถ้วยตวง
แป้งมันคั่วสุก 1/4 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ผสมหัวกะทิกับน้ำตาลทราย ใส่ลงในกระทะทองตั้งไฟอ่อนเคี่ยวให้น้ำตาลละลายเข้ากับกะทิ แล้วยกลง
2. ใส่แป้งสาลีลงในกะทิเคี่ยวตั้งไฟอ่อนๆ กวนให้แป้งสุกและกะทิแห้งขนมจับตัวเป็นก้อนล่อนออกจากกระทะ ยกลงจากเตา ใช้พายคนให้คลายร้อน
3. ตักขนมอัดลงในพิมพ์ที่โรยด้วยแป้งมันไว้ก่อนแล้ว จึงเคาะขนมจากพิมพ์ใส่ถาด

ขนมลืมกลืน













ส่วนผสม
แป้งถั่วเขียว 1 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้ 5 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 5 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ผสมแป้งถั่วเขียวกับน้ำตาลทราย ให้เข้ากันใส่ลงในกระทะทองคนให้เข้ากันใส่น้ำลอยดอกไม้ คนให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ กวนจนแป้งสุกใส
2. หยอดขนมลงในพิมพ์หรือถ้วยตะไล
3. ผสมหัวกะทิแป้งข้าวเจ้าลงในกระทะทอง กวนด้วยไฟอ่อนๆ ใส่เกลือ คนจนแป้งสุกและกะทิข้น หยอดหัวกะทิลงบนตัวขนม จัดใส่ภาชนะ

ขนมกล้วย












ส่วนผสม
กล้วยน้ำว้าสุกบด 2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งท้าวยายม่อม 3 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวทึนทึกขูด 1/4 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน แป้วท้าวยายม่อม เข้าด้วยกันแล้วใส่หัวกะทิลงนวดจนเป็นเนื้อเดียวกัน
2. ใส่กล้วยบด น้ำตาลทราย ลงในแป้งที่นวดแล้ว คนให้เข้ากัน จนน้ำตาลละลาย ใส่มะพร้าวทึนทึกขูดลงผสมให้เข้ากัน
3. เทขนมใส่ลงในถาดหรือพิมพ์นำไปนึ่งให้สุกด้วยไฟแรงยกลงเวลาเสริ ฟโรยด้วยมะพร้าวขูดฝอยอีกครั้ง

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดงา













ส่วนผสม
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 300 กรัม
เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
งาคั่ว 1/2 ถ้วยตวง
น้ำ 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. น้ำมันพืชใส่กรทะตั้งไฟอ่อนๆ ใส่เมล็ดมะม่วงลงทอดให้สุกเหลือง ตักขึ้น ใส่เนยลงคลุกให้ทั่ว
2. ผสมน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน ตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวให้เหนียว พอน้ำตาลเริ่มเป็นยางมะตูม ใส่งาคั่วคนให้เข้ากัน
3. ใส่เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ทอดแล้วลงคลุกกับส่วนผสม กวนเบาๆ ด้วยไฟอ่อนจนน้ำตาลแห้งและงาจับติดกับเมล็ดมะม่วง พักไว้ให้เย็น

ถั่วลิสงทอด












ส่วนผสม
ถั่วลิสงล้างน้ำ 3 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วยตวง
แป้งสาลี 1/4 ถ้วยตวง
แป้งมัน 1/4 ถ้วยตวง
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปูนใส 1/2 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอด
กลอยปอกเปลือกหั่นชิ้นเล็ก 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี แป้งมันและผงฟูเข้าด้วยกันใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น ไขไก่ นวดให้เข้ากัน ใส่น้ำปูนใสทีละน้อย นวดจนแป้งนุ่ม ใส่หัวกะทิ คนให้เข้ากันแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
2. ใส่น้ำมันในกระทะให้น้ำมันร้อน ใช้ไฟกลาง เอาพิมพ์สำหรับทอดถั่ว แช่ในน้ำมันร้อน เมื่อพิมพ์ร้อนแล้วตักแป้งใส่ โรยถั่วลิสงและกลอยที่หั่นไว้แล้วจุ่มพิมพ์ลงในน้ำมัน พอแป้งลอยตัวขึ้นแล้วจึงนำพิมพ์มาใส่แป้งทอดแผ่นต่อไปพอแป้งสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นใส่ตะแกรงเมื่อเย็นแล้ว เก็บใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด

กลีบลำดวน













ส่วนผสม
แป้งสาลี 3 ถ้วยตวง
น้ำตาลทรายป่น 3 ถ้วยตวง
น้ามันพืช 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ผสมแป้งสาลีกับน้ำตาลทรายป่นเข้าด้วยกัน ใส่น้ำมันพืชทีละน้อยนวดเบาๆ ให้แป้งเกาะกันจนปั้นได้
2. ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมแล้วผ่าเป็น 4 ส่วน
3. จับแป้ง 3 ส่วนให้ปลายชนกันวางลงในถาด แป้งอีกส่วนหนึ่ง ปั้นเป็นก้อนกลมเล็กวางลงตรงกลางเกสร ปั้นเรียงให้เต็มถาด
4. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮท์ จนขนมสุกเหลือง(ประมาณ 10 นาที)นำออกจากเตาพักไว้ให้เย็น แล้วจึงแซะออกใส่ถาด

กล้วยฉาบหวาน












ส่วนผสม
กล้วย 10-15 ผล
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช 1 1/2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำ 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. น้ำมันพืชใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อน
2. ปอกกล้วยแล้วฝานเป็นแผ่นบางๆ ใส่ลงทอดในน้ำมันให้กรอบน่ากิน
3. ผสมน้ำ น้ำตาลทราย เกลือป่น ลงในกระทะทองตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวให้เดือดเป็นยางมะตูม จนน้ำตาลเหนียวใส ใส่กล้วยลงคลุกน้ำตาล ปล่อยไว้จนน้ำตาลทรายแห้ง ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น จัดใส่ภาชนะ

มันรังนก












ส่วนผสม
มันเทศ 500 กรัม
น้ำมันพืช 3 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ 500 กรัม
แบะแซ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. มันเทศปอกเปลือกออกหั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กตามยาว แช่น้ำปูนใส แล้วล้างให้สะอาด ใส่กระชอนผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
2. ตั้งกระทะให้ร้อนใส่น้ำมันตั้งไฟ พอน้ำมันร้อนใส่มันลงทอดทีละน้อย ให้กรอบเหลือง แล้วตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
3. กระทะทองตั้งไฟใส่น้ำตาล ใส่น้ำ แบะแซลงเคี่ยวจนเหนียว ใสมันทอดลงไปเคล้าให้ทั่วยกกระทะลง
4. แบ่งมันที่คลุกน้ำตาลไว้แล้วเป็นก้อนกลมพักไว้ให้อยู่ตัวจัดใส่ ภาชนะ

เผือกทอด












ส่วนผสม
เผือก 500 กรัม
แป้งสาลี 3/4 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1 1/2 ถ้วยตวง
มะพร้าวขูด 1 ถ้วยตวง
ผงฟู 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนชา
งาคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1 ถ้วย
น้ำมันสำหรับทอด 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ปอกเปลือกเผือกแล้วล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 ซ.ม. ยาว 7-10 ซ.ม.
2. ร่อนแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า ผงฟูเข้าด้วยกัน แล้วใส่เกลือมะพร้าวขูดนวดให้ส่วนผสมเข้ากันดี
3. ค่อยๆเติมน้ำทีละน้อย คนให้แป้งละลาย แล้วใส่งาคั่วคนให้กระจายทั่วกัน
4. น้ำมันใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อนใส่เผือกที่หั่นแล้ว ลงชุบแป้ง แล้วจึงใส่ลงทอดให้แป้งสุกเหลืองทั้งสิงด้าน ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

ขนมบ้าบิ่น














ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วยตวง
มะพร้าวทึนทึกขูด 3 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้ 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ผสมน้ำลอยดอกไม้กับน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ให้น้ำเชื่อมเหนียวข้นแล้วยกลงพักไว้
2. ผสมแป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า มะพร้าวทึนทึกขูดเข้าด้วยกัน
3. ผสมแป้งกับน้ำเชื่อมเข้าด้วยกัน เทใส่ถาดให้หน้าขนมเรียบเสมอกัน
4. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ จนขนมสุก มีผิวหน้า ขนมเกรียมเหลืองจัดยกลงตัดเป็นรูปต่างๆ ตามต้องการ

กล้วยแขก












ส่วนผสม
กล้วยน้ำว้าห่ามๆ 10 ผล
แป้งสาลี 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1 1/2 ถ้วยตวง
ผงฟู 1 ช้อนชา
มะพร้าวขูด 1/2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนชา
งาคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 1 ถ้วยตวง
น้ำมันพืชสำหรับทอด 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ร่อนแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า ผงฟู เข้าด้วยกัน ใส่เกลือ มะพร้าวขูด เคล้าเบาๆให้เข้ากัน
2. ค่อยๆ เติมน้ำทีละน้อย คนจนแป้งละลายดีใส่งาคั่วคนให้ทั่วกัน
3. ปอกกล้วยทีละลูก แล้วแบ่งกล้วยออกเป็น 3 ส่วนตามยาว ใส่ลงในชามแป้งที่ผสมไว้ชุบแป้งให้ติดทั่วทั้งชิ้น
4. น้ำมันใส่กระทะกระทะตั้งไฟให้ร้อน ใส่กล้วยที่ชุบแป้ง แล้วลงทอดจนแป้งเหลืองกรอบทั้งสองด้าน ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

กาละแม












ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
แป้งถั่วเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1 1/4 ถ้วยตวง
กาบมะพร้าวเผา

วิธีทำ

1. ตำกาบมะพร้าวที่เผาไว้ให้แหลกใส่น้ำลงไป 1 ถ้วยตวงคนให้น้ำสีดำออกแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
2. จะได้น้ำสีดำทำจากกาบมะพร้าว ผสมแป้งข้าวเหนียว แป้งถั่วเขียว เข้าด้วยกันในกระทะทอง ใส่น้ำสีดำ นวดแป้งให้เนียนผสมน้ำตาลทรายหัวกะทิคนให้เข้ากัน
3. ยกส่วนทั้งหมดตั้งไฟอ่อนๆ กวนแป้งให้เหนียวและล่อนออกจากกระทะจึงยกลง
4. เตรียมถาดสำหรับใส่ขนมทาน้ำมันพืชให้ทั่วเทขนมที่กวนไว้ลงในถาด เกลี่ยให้เรียงเสมอกัน แล้วพักไว้ให้เย็นจึงตัดเป็นชั้นสี่เหลี่ยม ตามต้องการ

ขนมข้าวตู












ส่วนผสม
ข้าวตาก 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลปึก 1 ถ้วยตวง
มะพร้าวทึนทึกขูดละเอียด 1 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้

วิธีทำ

1. น้ำข้าวตากมาคั่วให้เหลืองกรอบแล้วนำไปป่นให้ละเอียดร่อน แล้วป่นอีกครั้งให้ละเอียดดี
2. ผสมน้ำตาลกับน้ำตั้งไฟให้น้ำตาลละลาย แล้วนำมากรองด้วยผ้าขาวบางใส่กระทะทองตั้งไฟเคี่ยวให้น้ำตาล เหนียว
3. ใส่มะพร้าวขูดลงกวนกับน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ ยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น
4. ใส่ข้าวคั่วที่ป่นละเอียดแล้วลงคลุกกับน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากันจนทั่ว
5. เอาขนมอัดใส่พิมพ์ แล้วเคาะออกใส่ขวดโหลหรือภาชนะเก็บไว้

ขนมโสมนัส














ส่วนผสม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทรายละเอียด 1 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ใส่มะพร้าวที่ ขูดไว้ลงในถาด เกลี่ยให้บางเสมอกัน นำไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศา จนมะพร้าวแห้งกรอบ นำออกจากถาดปล่อยพักไว้ให้เย็น
2. ตีไข่ขาวให้ขึ้นจนไข่ตั้งยอด แล้วใส่น้ำตาลทีละน้อย เมื่อน้ำตาลหมดใส่เกลือตีต่อไปจนไข่ตั้งยอดอีกครั้ง
3. เทมะพร้าวที่อบแห้งแล้วลงในไข่เคล้าเบาๆให้เข้ากัน
4. ตักขนมที่ผสมกันเรียบร้อยแล้วเป็นก้อนกลม วางลงบนถาดที่ทาน้ำมันไว้บางๆ นำเข้าอบที่อุณหภูม 250 องศา จนขนมแห้งกรอบดี แซะออกจากถาดผึ่งไว้ให้เย็น
5.

ขนมถ้วยฟู












ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้ 1/2 ถ้วยตวง
ยีสต์ 1 ช้อนชา
ผงฟู 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ใส่ยีสต์ลงไปในแป้งข้าวเจ้าให้เข้ากัน ใส่น้ำลอดอกไม้ทีละน้อน นวดจนแป้งนิ่มเนียน
2. ใส่น้ำตาลและน้ำทั้งหมดลงในแป้ง ใส่ผงฟู นวดต่อไป ปิฝาครอบไว้ 1-2 ชั่วโมง
3. เรียงถ้วยตะไลลงในรังถึงนึ่งในน้ำเดือดจนถ้วยร้อนประมาณ 5 นาที
4. ตักขนมที่ผสมไว้ลงในถ้วยตะไลพอเต็มปิดฝานึ่งให้สุกประมาณ 10-15 นาที ยกลงพักไว้ให้เย็น แล้วจึงแกะออกจากถ้วย

ขนมนางเล็ด












ส่วนผสม
ข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลปึก 1 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ซาวข้าวเหนียวให้สะอาดแล้วแช่น้ำพักไว้ 1 คืน
2. นึ่งข้าวเหนียวให้สุก แล้วตักข้าวเหนียวลงในพิมพ์กดเบาๆ ให้ข้าวเหนียวเป็นแผ่นบางๆใส่ถาดตากแดดให้แห้งสนิท
3. น้ำมันใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อนใส่ข้าวที่ตากแดดแล้วลงทอดให้พองกรอบ แล้วตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมันซับน้ำมันให้แห้งแล้วพักไว้ให้เย็น เก็บใส่ภาชนะไม่ให้ถูกลม
4. เคี่ยวน้ำตาลปึกกับน้ำจนน้ำตาลละลายเคี่ยวให้ข้นจนเป็นยางมะตูม ยกลงจากเตา
5. ตักน้ำที่เคี่ยวไว้หยอดบนแผ่นข้าวที่ทอดไว้เป็นวงให้สวยงาม ผึ่งให้เย็นเก็บใส่ภาชนะปิดฝาไม่ให้ถูกลม

ข้าวต้มผัด












ส่วนผสม
ข้าวเหนียวแช่น้ำไว้แล้ว 2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 2 ช้อนชา
กล้วยน้ำหว้าสุก 8 ลูก
ใบตองสำหรับห่อ

วิธีทำ

1. ผสมหัวกะทิ น้ำตาลทรายเกลือลงในกระทะทอง ตั้งไฟอ่อนๆ คนพอน้ำตาลละลาย เคี่ยวต่อสักครู่
2. ใส่ข้าวเหนียวผัดกับกะทิด้วยไฟอ่อนๆ จนกะทิแห้งยกลงจากเตา
3. ปอกกล้วยผ่าครึ่งตามยาวเตรียมไว้
4. ฉีกใบตองวางซ้อนกันวางข้าวเหนียวใส่กล้วยวางข้าวเหนียวทับอีก ครั้งให้มิดกล้วย แล้วห่อให้แน่นนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 45 นาที

ขนมผิง












ส่วนผสม
แป้งมัน 2 1/4 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย1/2 ถ้วยตวง
ไข่แดง(ไข่ไก่) 2 ฟอง

วิธีทำ

1. หัวกะทิใส่กระทะทองตั้งไฟอ่อนๆ ใส่น้ำตาลลงในกะทิเคี่ยวจนเป็นยางมะตูมลงพักไว้สักครู่
2. ใส่ป้งมันลงในน้ำกะทิที่เคี่ยวไว้คนแรงๆเร็วๆ ให้ทั่วใส่ไข่แดงคนให้เข้ากัน แล้วนวดต่อจนนุ่ม หมักไว้ 2-3 ชั่วโมง
3. ปั้นแป้งเป็นก้อนกลมๆ วางลงบนถาดที่ทาน้ำมันไว้บางๆห่างกันประมาณ 1 นิ้วจนเต็มถาดนำไปอบที่อุณหภูมิ 270-300 องศาฟาเรนไฮท์ประมาณ 10-20จนขนมสุก แซะออกจากถาดปล่อยไว้ให้เย็นแล้วจึงนำเก็บใส่ขวดโหล

ขนมชั้น













ส่วนผสม
แป้งท้าวยายม่อม 1/1 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วยตวง
แป้งมัน 1/2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำใบเตย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ร่อนแป้งทั้งสามชนิด เข้าด้วยกัน
2. นวดแป้งกับหัวกะทิทีละน้อย นวดจนแป้งนุ่มเหนียว พักไว้
3. ผสมน้ำลอยดอกไม้ น้ำตาลทรายเข้าด้วยกันตั้งไฟให้เดือดยกลงพักไว้
4. แบ่งส่วนผสมของแป้งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งใส่น้ำใบเตยนวดให้เข้ากัน อีกส่วนหนึ่งไม่ต้องใส่ให้เป็นแป้งสีขาว
5. นึ่งพิมพ์ขนมให้ร้อน ตักขนมหยอดทีละชั้น นึ่งให้สุกแล้วจึงหยอดชั้นต่อไปหยอดสลับสีกันจนหมด
6. เมื่อนึ่งขนมชั้นบนสุดสุกดีแล้ว ยกลงปล่อยไว้ให้เย็น แล้วตัดตามต้องการ

ขนมเหนียว












ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วยตวง
ข้าวเหนียวแช่น้ำ 1/2 ถ้วยตวง
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำลอยดอกไม้ 1/2 ถว้ยตวง

วิธีทำ

1. ร่อนแป้งข้าวเหนียวกับแป้งข้าวเจ้ารวมกันใส่เกลือคลุก เคล้าให้เข้ากัน
2. ใส่น้ำทีละน้อยนวดจนหมดน้ำ นวดจนแป้งเนียนนุ่มถ้าต้องการใส่สีให้แบ่งตามสีที่ต้องการแล้วนวดให้เข้ากัน
3. ปั้นแป้งให้เป็นแผ่นหนาประมาณ 1/2 นิ้วยาวประมาณ 2-3 นิ้ววางเรียงลงในรังถึงที่ปูผ้าขาวบางไว้
4. ยกรังถึงขึ้นนึ่งบน้ำเดือดพล่านประมาณ 1/2 ชั่วโมง พอแป้งสุกยกลงแซะแป้งออกจากรังถึง หั่นแป้งเป็นชิ้นขนาดพอคำ
5. ผสมมะพร้าวขูดกับเกลือป่นคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วใส่ลงคลุกเคล้า กับแป้งที่หั่นไว้
6. สงข้าวเหนียวที่แช่น้ำไว้แล้วใส่กระชอนพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ใส่ลงในกระทะคั่วให้พอง จนเป็นสีเหลืองกรอบ พักไว้ให้เย็น ใส่ขวดปิดฝาไว้
7. เคี่ยวน้ำตาลปีบให้ละลายจนเหนียวข้นยกลงเทใส่ถ้วย
8. เวลาเสร็จจัดขนมใส่จานราดน้ำตาลที่เคี่ยวไว้โรยด้วยข้าวเหนียวที่ คั่วไว้

ขนมปั้นสิบทอด













ส่วนผสม
แป้งสาลี 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ตีเข้ากัน 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปูนใส 1/4 ถ้วยตวง
เนื้อไก่สับละเอียด 1 ถ้วยตวง
รากผักชีหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมปอกเปลือกสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำตาลปีบ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
หัวหอมใหญ่ปอกเปลือก 1/2 ถ้วยตวง
ถั่วลิสงคั่วป่น 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ร่อนแป้งสาลี กับแป้งข้าวจ้าวรวมกัน ใส่ไข่ไก่ น้ำมันพืชเคล้าให้เข้ากัน ค่อยๆกัน ใส่น้ำปูนใสนวดจนแป้งนุ่ม คลุมด้วยผ้าขาวบางไว้
2. โขลกรากผักชีกระเทียม พริกไทย ให้เข้ากัน ผัดกับน้ำมันหอม ใส่หัวหอมใหญ่ ใส่ไก่ผัดให้สุก ใส่น้ำตาลปีบน้ำปลา ผัดให้เหนียวใส่ถั่วลิสง คลุกให้เข้ากันตักขึ้น
3. ปั้นแป้งเป็นก้อนเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว คลึงให้กลมแล้วใส่ไส้(ข้อ 2)ลงตรงกลางพับครึ่งจับจีบริม แป้งเหมือนกระหรี่ปั๊ทำจนหมดแป้งคลุมด้วยผ้าขาวบาง
4. เทน้ำมันใส่กระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใช้ไฟอ่อน ทอดขนมจรสุกเหลืองตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

เผือกกวน












ส่วนผสม
เผือกดิบ 500 กรัม
หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปึก 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ล้างเผือกให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นขนาดพอเหมาะ แล้วนึ่งสุก
2. ลอกเปลือกเผือกออกให้หมด แล้วบดหรือยีให้ละเอียด
3. แบ่งหัวกะทิเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งผสมน้ำตาลทราย น้ำตาลปึกเกลือป่นลงในกระทะทองตั้งไฟอ่อนๆ ใส่เผือกที่บดไว้ ลงกวนในกระทะทอง กวนจนกะทิลดลงค่อยๆ เติมหัวกะทิส่วนที่เหลือกวนต่อไปจนหัวกะทิหมด และเผือกกวนแห้งขนาดพอปั้นได้ยกลง ปั้นหรือใส่พิมพ์ตามต้องการ

ขนมน้ำดอกไม้












ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า 1 1/4 ถ้วยตวง
แป้งเท้ายายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและแป้งท้าวฯ เข้าด้วยกันใส่น้ำลอยดอกมะลิทีละน้อยนวดจนแป้งเข้ากันดี
2. ผสมน้ำกับน้ำตาลตั้งไฟเคี่ยวน้ำเชื่อม แล้วใส่ลงในแป้งนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
3. เรียงถ้วยตะไลในรังถึง นึ่งด้วยไฟแรงจนน้ำเดือดร้อนจัดจึงตักแป้งหยอดลงในถ้วยตะไลให้เต็มถ้วย ปิดฝานึ่ง ต่ออีกประมาณ 10 นาที เมื่อขนมสุกดียกลงพักไว้ให้เย็นแคะขนมออกจากถ้วย

วุ้นน้ำเชื่อม












ส่วนผสม
ผงวุ้น 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำดอกไม้ 3 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย
น้ำหวานเขียว,แดง

วิธีทำ

1. ละลายผงวุ้นกับน้ำดอกไม้ให้เข้ากัน แล้วตั้งไฟอ่อนๆ ให้เดือด
2. ใส่น้ำตาลทรายหมั่นคนจนเดือด แบ่งออกเป็น 2 ส่วนเพื่อใส่น้ำหวานที่เตรียมไว้ แล้วนำไปตั้งไฟอีกครั้งพอเดือดยกลงพักไว้ให้พออุ่น
3. เตรียมพิมพ์หรือถาดแล้วใส่วุ้นให้เต็มปล่อยไว้ให้เย็นหรือนำเข้า ตู้เย็นเวลาจะเสริฟจึงแคะออกจากพิมพ์

วุ้นกระทิ












ส่วนผสม
ผงวุ้น 2 ช.ต.
น้ำดอกไม้ 3 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำใบเตย 1 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า 1 ช.ต.

วิธีทำ

1. ละลายผงวุ้นในน้ำดอกไม้ให้เข้ากัน ตั้งไฟอ่อนๆให้เดือดเติมน้ำตาลทราย คนให้ละลาย
2. แบ่งวุ้นเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งใส่น้ำใบเตยตั้งไฟให้เดือด ยกลง
3. วุ้นส่วนที่เหลือตั้งไฟอ่อนๆ ละลายแป้งข้าวเจ้าลงในหัวกะทิใส่เกลือคนให้เข้ากับแล้วใส่ลงในวุ้นที่ตั้งไฟ รออย่ รอให้เดือดยกลง
4. เตรียมพิมพ์หรือถาดใส่วุ้นกะทิลงไปครึ่งหนึ่งให้วุ้นเริ่มแข็งตัว ใส่วุ้นใบเตยรอให้เย็น สนิทดีแล้วจึงจัดใส่ภาชนะ
5.

หมี่ทรงเครื่อง












ส่วนผสม
เส้นหมี่ 200 กรัม
น้ำมันสำหรับทอดเส้นหมี่ 2 ถ้วยตวง
กระเทียมปลอกเปลือกสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
หัวหอมปอกเปลือกสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
เต้าเจี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 1/4 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
ใบกุยช่าย 10 กรัม
ถั่วงอก 50 กรัม
กระเทียมดองหั่นบางๆ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกแดงหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. เส้นหมี่แช่น้ำพอนิ่ม ใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ แล้วทอดเส้นหมี่ทีละน้อยในน้ำมันร้อนๆ ให้เส้นพองเหลืองกรอบ ตักขึ้น
2. ใส่น้ำมันพืช 3 ช.ต. เจียวหัวหอมและกระเทียมให้เหลือง ใส่เต้าเจี้ยว น้ำส้มสายชู น้ำตาลปีบผัดจนน้ำตาลละลายเหนียว ใส่มะนาวชิมดู ให้มีรสตามต้องการ
3. ใส่เส้นหมี่ที่ทอดแล้วลงคลุกกับน้ำปลุงที่เตรียมไว้ด้วยไฟอ่อนๆ จนทั่ว เมื่อเส้นหมี่เกาะกันดีแล้ว ยกลงตักใส่จาน โรยกระเทียมดองแต่งหน้าด้วยผักชี พริแดงหั่นฝอย รับประทานกับถั่วงอกและใบกุยช่าย

วุ้นกรอบ













ส่วนผสม
ผงวุ้น 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้ 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ละลายผงวุ้นกับน้ำลอยดอกไม้ให้เข้ากับ แล้วใส่กระทะทองยกขึ้นตั้ง ไฟอ่ออนๆ เคี่ยวจนวุ้นละลายหมดใส่น้ำตาลต้มให้น้ำตาลละลาย ยกลง
2. กรองวุ้นด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดๆ แล้วใส่ลงในกระทะทองเคี่ยวต่อจนวุ้นข้นถ้าต้องการเติมสีให้แบ่งเป็นส่วนๆ แล้วเติมสีคนให้เข้ากัน
3. เทวุ้นลงในถาดไว้ให้วุ้นเย็นและแข็งตัวใช้มัดหรือพิมพ์ตัดวุ้นใส่ ถาดไว้แล้วนำไปผึ่งแดดจนผิวนอกแข็ง เก็บใส่ขวดหรือภาชนะ

ขนมต้ม












ส่วนผสม
แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
น้ำ 1/2 ถ้วยตวง
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
มะพร้าวขูดเป็นเส้น 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ผสมแป้งท้าวยายม่อมแป้งข้าวเหนียวเข้าด้วยกันค่อยๆ เติมน้ำเปล่าทีละน้อย นวดจนแป้งนุ่มปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 ซ.ม.
2. ผสมน้ำตาลปีบฝอยน้ำเป่า 2 ช้อนโต๊ะ ในกระทะทองตั้งไฟกวนให้เหนียวสำหรับเป็นไส้ แล้วปั้นเป็นก้อนกลม
3. แผ่แป้งที่ปั้นไว้เป็ยแผ่นแบนวางไส้ลงตรงกลางแล้วหุ้มไส้ให้มิด
4. ใส่น้ำในหม้อตั้งไฟให้เดือด ใส่ขนมต้มลง เมื่อขนมสุกลอยตัวขึ้นตักขนมใส่น้ำเย็นแล้วสะบัดให้ สะเด็ดน้ำ
5. มะพร้าวผสมเกลือป่นคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วใส่ขนมคลุกลงกับ มะพร้าวให้ทั้วจัดใส่จาน

กระเช้าสีดา














ส่วนผสม
แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง
ไข่แดง 2 ฟอง
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
น้าเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
น้ำดอกไม้ 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. นวดแป้งสาลีกับน้ำมันพืชให้เข้ากันใส่ไข่แดงลงนวดทีละฟอง นวดจนแห้งเนียนนิ่มใช้ผ้าขาวบาง ชุบน้ำบิดหมาดๆคลุมพักไว้ประมาณ 10-15 นาที
2. แบ่งแป้งที่ละน้อยกดลงพิมพ์กระเช้าใส่ถาดนำเข้าอบไฟกลางจนแป้งสุก ยกลงพักไวให้เย็น
3. ผสมน้ำทรายน้ำลอยดอกไม้ ตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวจนตาลทรายละลายเหนียวจนเป็ยยางมะตูมใส่มะพร้าวลงคลุกกับน้ำเชื่อมให้ ทั่ว กันจนน้ำเชื่อมแห้ง
4. ตักมะพร้าวใส่ลงในกระเช้าจัดให้สวยงามแล้ววางผึ่งลมให้แห้งแล้ว จึงจัดใส่ภาชนะ

ตะโก้แห้ว












ส่วนผสม
แห้วต้มหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 1 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำดอกไม้ 2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ใส่น้ำลอยดอกไม้ในแป้งข้าวเจ้าทีละน้อยนวดจนแป้งนุ่ม แล้วใส่น้ำลอยดอกไม้ลงไป ให้แป้งละลายหมด จนเข้ากันดี
2. ใส่แป้งที่ละลายไว้ลงในกระทะทอง ใส่น้ำตาลทราย ตั้งไฟกวนจน แป้งสุกข้น
3. ใส่แห้วทีหั่นไว้ลงกวนให้เข้ากัน
4. ทำหน้าขนมดดยละลายแป้งข้าวเจ้ากับหัวกะทิใส่น้ำตาลทรายลงคนให้ เข้ากันกวนด้วยไฟอ่อน พอแป้งสุกยกลง
5. ตักตัวขนมใส่กระทงหรือถาดแล้วหยอดหน้าขนมลงไปขณะที่หน้าขนมยัง ร้อนอย่ปล่อยพักไว้ให้เย็น แล้วจัดใส่

ขนมกรวย













ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
แป้งถั่วเขียว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปึก 3/4 ถ้วยตวง
น้ำ 1 1/2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 3/4 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ผสมแป้งข้าวเจ้ากับแป้งถั่วเขียวให้เข้ากันเติมน้ำทีละ น้อย นวดให้เข้ากันแล้วเติมน้ำตาลปึกลงไปแล้วนวดต่อ จนน้ำตาลและแป้งเข้ากันดีแล้วเติมน้ำลงไปให้หมดคนให้เข้ากัน
2. ใส่แป้งข้าวเจ้าเกลือป่นลงไปในหัวกะทิ คนให้เข้ากัน
3. หยอดส่วนผสมข้อ 1 ลงในกรวยใบตองที่เตรียมไว้ แล้วหยอดส่วนผสมข้อ 2 ลงไปประมาณ 3/4 ของกรวย เสียบกรวยลงในรูของรังถึง โดยเว้นที่ไว้ให้มีช่องว่างให้ไอน้ำขึ้นด้วยนึ่งในน้ำเดือดให้แป้งสุกแล้ว พักไว้ให้เย็นจึงจัดใส่ภาชนะ

ข้าวเหนียวแดง












ส่วนผสม
ข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง
น้ำตาลปีบ 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. นึ่งข้าวเหนียวให้สุก แล้วเทออกใส่ถาดเกลี่ยให้กระจายตัว ผึ่งลมให้แห้ง
2. หัวกะทิใส่ในกระทะตั้งไฟเคี่ยวให้เดือดใส่น้ำตาลปีบลงเคี่ยวให้ เป็น ยางมะตูม
3. ใส่ข้าวเหนียวที่ผึ่งไว้ลงในกระทะทอง กวนต่อจนข้าวเหนียวเริ่มเกาะตัวเป็นก้อน แล้วล่อนออกจากกระทะยกลง
4. ตัดข้าวเหนียวใส่ถาดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ตกแต่งให้สวยงาม

ขนมทราย












ส่วนผสม
แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง
น้ำดอกไม้ 2 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 1/2
มะพร้าวทึนทึกขูดเป็นเส้นๆ

วิธีทำ

1. นวดแป้งกับน้ำดอกไม้ 1/2 ถ้วยตวง ใช้ผ้าขาวบางบิดหมาดคลุมไว้
2. ต้มน้ำตาลทราย กับน้ำดอกไม้ให้เดือด กรองให้สะอาด พักไว้ให้เย็น
3. ยีแป้งที่นวดไว้บนกระชอนลวด แล้วยีซ้ำอีกครั้ง ให้แป้งลงในรังถึงที่ปูด้วยผ้าขาว บางไว้แล้ว
4. นำแป้งที่ยีได้นึ่งในน้ำเดือดประมาณ 45 นาที จนแป้งสุกคอยระวังอย่าให้น้ำแห้งพอแป้งสุก เทใส่ชามผสมน้ำพักไว้ให้เย็น
5. เทน้ำเชื่อมที่เย็นแล้วลงในชามแป้งคนเร็วๆ ให้ทั่ว พักไว้ประมาณ 10 นาที ใช้ซ้อมยีให้แป้งกระจาย เนื้อละเอียดฟูดี จึงอบด้วยดอกมะลิหรือเทียนอบไว้ 1 คืน
6. เสริฟกับมะพร้าวทึนทึกขูดฝอยเป็นเส้นๆ

ข้าวเหนียวแก้ว













ส่วนผสม
ข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 3/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำใบเตย 1/2 ถ้วยตวง
น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ซาวข้าวเหนียวให้สะอาดวางลงบนรังถึงที่ปูด้วยผ้าขาวบาง ตั้งบนน้ำเดือด นึ่งจนข้าวเหนียวสุก
2. ใส่น้ำใบเตยผสมกับหัวกะทิคนให้เข้ากับน้ำปูนใส แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางใส่เกลือป่นคนให้เกลือละลาย ใส่ชามอ่างใบใหญ่ๆ
3. เมื่อข้าวเหนียวสุกดีตักข้าวใส่ชามกะทิเคล้าเร็วๆ ให้ข้าวเหนียวคลุกกับกะทิให้ทั่วปิดปากชามไว้ประมาณ 10-20 นาที ให้ข้าวเหนียวอมน้ำไว้จนกะทิแห้ง
4. ใส่น้ำตาลลงในข้าวเคล้าเบาๆ ให้ทั่วกัน แล้วเทใส่กระทะทองตั้งไฟอ่อนๆ คลุกจนน้ำตาลละลายจับเม็ดทั่วยกลงจากเตา จัดใส่ภาชนะให้สวยงาม

ขนมเม็ดขนุน















ส่วนผสม
ถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุก 2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้ 5 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 5 ถ้วยตวง
ไข่เป็ด 10 ฟอง

วิธีทำ

1. บดถั่วเขียวให้ละเอียดใส่หัวกะทิ และน้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง คนให้เข้ากัน ใส่กระทะทองตั้งไฟกวน ให้เหนียวสามารถปั้นได้ ยกลงพักไว้ให้เย็นแล้วปั้นเป็นเม็ดกลมๆรีๆ
ให้มีลักษณะเหมือนเม็ดขนุน
2. ต่อยไข่แล้วแยกไข่ขาวออกใช้แต่ไข่แดงตีให้เข้ากันปิดฝาไว้ไม่ให้ ไข่แห้ง
3. ผสมน้ำลอยดอกไม้ 5 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 5 ถ้วยตวง ใส่กระทะทองตั้งไฟให้น้ำตาลละลาย เคี่ยวต่อให้น้ำเชื่อมเหนียว ข้นขึ้นแบ่งใส่ชามไว้ส่วนหนึ่ง
4. จิ้มเม็ดถั่วลงในไข่แดงแล้วหยอดลงในกระทะน้ำเชื่อมพอไขแดงสุกดี แล้วใช้ทัพพีโปร่งตักขึ้นใส่ในชามน้ำเชื่อม ทำจนหมดถั่วที่ปั้นไว้

ขนมไข่แมงดา














ส่วนผสม
ไข่เป็ด 5 ฟอง
ไข่ไก่ 5 ฟอง
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้ 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1. ต่อยไข่แยกเอาเฉพาะไข่แดง คนไข่แดงให้เข้ากันตีให้ขึ้นฟู
2. ผสมน้ำตาลทรายและน้ำลอยดอกไม้เข้าด้วยกันในกระทะทอง เคี่ยวให้น้ำเชื่อมข้น
3. เมื่อตีไขฟูดีแล้วใส่แป้งข้าวเจ้าลงคนให้ทั่วเร็วๆ
4. ใช้กรวยใบตองสำหรับหยอดไข่แมงดา โดยตัดปลายให้กว้างกว่าที่ใช้ทฝอยทอง ตักไข่ใส่ในกรวยแล้วหยดลงในน้ำเชื่อม ที่กำลังเดือด ต้มต่ออีกประมาณ 2 นาที ตักขึ้นใส่ภาชนะ

ขนมตาล













ส่วนผสม
ลูกตาลสุก 1 ผล
ข้าวสารเก่า 2 ถ้วยตวง
แป้งท้าวยายม่อม 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ลอกเปลือกลูกตาลออกให้หมด ขูดเอาเนื้อสีเหลืองออก ตัวลูกตาลแช่น้ำไว้จนเนื้อลูกตาลละลายออกหมด ใช้ผ้าห่อเนื้อลูกตาล และน้ำที่ละลายผูกมัดปากรวมไว้ให้แน่นแขวนหรือทับไว้ให้แห้ง
2. โม่ข้าวสารที่แช่น้ำไว้ให้ละเอียด แล้วทับให้แห้ง
3. ผสมข้าวสารที่โม่และทับจนแห้งแล้ว รวมกับแป้งท้าวยายม่อม และลูกตาลที่ทับจนแห้งแล้วนวดส่วนผสมทั้งหมด เข้าด้วยกันจนแป้งที่ผสมเนียนและนุ่มมือ(ประมาณ 30-60 นาที)
ใส่น้ำตาลสลับกับหัวกะทิ นวดจนหัวกะทิและน้ำตาล ละลายหมด พักไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง
4. ตักแป้งที่ผสมแล้วใส่กระทงหรือถ้วยตะไล โรยมะพร้าว แล้วนึ่งให้สุกยกลงถ้าใส่ถ้วยตะไลรอให้เย็นก่อนแล้วจึงนำออกจากถ้วยจัดใส่ ภาชนะ

ขนมทองหยอด















ส่วนผสม
ไข่เป็ด 20 ฟอง
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 5 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้ 5 ถ้วยตวง


วิธีทำ

1. แยกไข่แดงและไข่ขาออกจากกัน ใช้แต่ไข่แดงตีให้ไข่แดงฟูขึ้นมากๆ แล้วใส่แป้งข้าวเจ้าคนเร็วๆให้เข้ากัน
2. ผสมน้ำลอยดอกไม้กับน้ำตาลทรายตั้งไฟแรงให้น้ำตาลเดือดพล่านเคี่ยว ประมาณ 10-20 นาทีให้น้ำเชื่อมข้น แบ่งส่วนหนึ่งไว้สำหรับแช่ทองหยอดที่สุกแล้วส่วนที่เหลือตั้งไฟไว้สำหรับ หยอดทองหยอด
3. ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางตักแป้งและใช้นิ้วหัวแม่มือสะบัดแป้งลงใน กระทะที่ตั้งน้ำเชื่อมไว้ททำวิธีนี้จนเต็มกระทะ พอแป้งสุกลอยตัวตักขึ้นพักไว้

ขนมไข่













ส่วนผสม
ไข่ขาวของไข่ไก่ 1 ถ้วยตวง
แป้งเค้ก 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
ผงฟู 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ตีไข่ให้ขึ้นฟู แล้วเติมน้ำตาลทีละน้อยจนหมด ตีต่อไปจนน้ำตาลตั้งยอดอ่อน
2. ร่อนแป้งผงฟูเข้าด้วยกัน แล้วแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ใส่แป้งส่วนที่ 1 ลงในไข่ที่ตีแล้ว เคล้าเบาๆให้เข้ากัน ใส่น้ำมะนาวลงไป ใส่แป้งส่วนที่ 2 เคล้าเบาๆอีกครั้ง
3. ทาน้ำมันพืชที่พิมพ์ขนมอบให้ร้อน แล้วใส่แป้งที่ผสมลงในพิมพ์ปิดฝาอบให้แป้งสุกแห้งจนขนมเป็นสีทอง แกะขึ้นใส่ถาด พักไว้ให้เย็น